Shopping Cart

No products in the cart.

PGR อันตรายของสารควบคุมการเจริญเติบโตของกัญชา

PGR คือ สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ย่อมาจาก plat growth regulators เป็นสารเคมีที่สำคัญในการเกษตร เป็นสารอินทรีย์ที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นมาได้ มนุษย์รู้จักและได้ใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชมานานแล้ว

“สาร PGR” เป็นสารเคมีคล้ายฮอร์โมนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในพืช และมีบทบาทสำคัญในการงอกของเมล็ด การเจริญเติบโตของราก การยืดตัวของแกนลำต้น การขยายตัวของใบ และการผลิดอก

การใช้ฮอร์โมนพืชมีวัตถุประสงค์ในทางการเกษตร เพื่อคุณภาพ และเพิ่มจำนวนของผลผลิต และอำนวยความสะดวกในเพราะปลูก และจัดการฟาร์ม การใช้ PGR ในการปลูกกัญชา กำลังกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น แต่ว่ามันคืออะไรกันแน่?

ในวงการเพาะปลูกกัญชา PGR ถูกใช้เพื่อทำให้ดอกตูมมากขึ้น ช่วยในเรื่องของความแน่น และน้ำหนักของดอก และอัพราคาขาย จากความแน่นของดอก ขนาดของดอก โดยที่ผู้บริโภคไม่รู้ถึงเบื้องหลังที่มาของความสวยของช่อดอกกัญชา

ประเภทของ PGR

PGR ที่รู้จักมีสองประเภท ได้แก่ ได้มาจากธรรมชาติและได้มาทางการใช้เคมี ฮอร์โมนที่ได้จากสารเคมี มีจุดประสงค์และจุดมุ่งหมายเพื่อขัดขวางการสังเคราะห์ของฮอร์โมน และการสลายตัวของฮอร์โมน หรือเลียนแบบฮอร์โมนที่มีอยู่ก่อน การแทรกแซงด้วยการใช้เคมี มักจะกระตุ้นให้เกิดการเติบโตที่ที่รวดเร็ว หนาแน่นและให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น

ผู้ปลูกกัญชาหลายคน บอกว่าการใช้ PGR ช่วยเหลือในการปลูกกัญชา ช่วยให้กัญชาเติบโต “มีสุขภาพดี” และเพิ่มความต้านทานต่อโรคของพืชสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนที่ไม่ได้มาด้วยธรรมชาติย่อมมีผลกระทบ และผลที่ตามมาแน่นอน

กัญชา PGR และกัญชาที่ไม่ใช้ PGR

credit: leafwell.com

ความอันตรายของ PGR ที่ได้จากเคมี

PGR เป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ปลูกกัญชาที่ไม่คำนึงหรือนึกถึงผู้ใช้ คิดแค่ว่าอยากจะขาย ที่น่าเป็นห่วงก็คือผลกระทบที่สารเคมีเหล่านี้ที่มีผลต่อผู้ที่บริโภคกัญชา ผลกระทบด้านสุขภาพที่เกิดจากการใช้ PGR

เป็นที่รู้กันดีว่า PGR ที่ได้มาจากกระบวนการทางเคมี มีโอกาสทำให้ เกิดมะเร็ง เกิดภาวะมีลูกยาก เป็นพิษต่อตับ และยังจัดเป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในช่วงปลายของทศวรรษ 1980 หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือว่า E.P.A ได้สั่งห้ามการใช้ PGR หลาย ๆ ชนิด เนื่องจากคาดการว่าการได้รับ PGR เหล่านี้ อาจจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งมากกว่าที่มาตรฐานของ E.P.A พิจารณายอมรับได้ 240 เท่า สิ่งที่ควรคำนึง การใช้ PGR เหล่านี้เป็นสิ่งที่ผิดในอุตสาหกรรมอาหาร แต่สำหรับอุตสาหกรรมกัญชาล่ะ? เป็นสิ่งที่ผิดรึเปล่า?

ตัวอย่าง PGR ที่ได้จากธรรมชาติ

มีความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นบ่อยคือ PGR ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่นั้นก็ไม่เป็นความจริง มีสาร PGR ที่สามารถหาได้ตามธรรมชาติอยู่ทุกหนทุกแห่งในสภาพแวดล้อมโดยรอบ อาทิเช่น สาหร่ายทะเล ไคโตซาน และ ไตรคอนทานอล ตัวอย่างเรานี้คือ PGR ที่ได้มาโดยธรรมชาติ ซึ่งไม่ใช่ PGR ที่ได้มาจากเคมี

ปุ๋ยสำหรับปลูกกัญชา อาจมีส่วนผสม PGR ที่ได้จากเคมี

อย่างไรก็ตาม ผู้จำหน่ายปุ๋ยปลูกกัญชา ที่ได้รับความนิยมหลายแห่งใช้ PGR ที่ได้จากสารเคมี เป็นส่วนผสมในปุ๋ยของตัวเอง แต่ก็ยังบอกว่านี้คือ “ปุุ๋ยออแกนิก” เพื่อที่จะได้รับการยกย่องและชื่นชมว่าให้ผลผลิตที่ดีจากการใช้ปุ๋ยปลูกกัญชานั้น ๆ และผู้ปลูกกัญชาก็ไม่รู้ถึงอันตรายในการใช้ ผู้ปลูกบางรายอาจจะไม่รู้จัก PGR ด้วยซ้ำ และอันตรายที่มีผลตามมาต่อร่างกายของผู้บริโภคหรือก็คือผู้ใช้นั้นเอง

PGR ที่พบบ่อยที่สุดมีอะไรบ้าง?

นอกจากจะเป็นอันตรายและผลกระทบต่อร่างกายในการบริโภคแล้ว สารควบคุมการเจริญเติบโตที่สังเคราะห์นี้ยังส่งผลต่อคุณภาพของกัญชาที่ปลูกอีกด้วย สิ่งสำคัญอย่างนึงในการบริโภคกัญชาหรือการสูบ คือความเข้าใจและรู้จัก ว่าเรากำลังสูบอะไร และทำความรู้จัก PGR กับอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

ในวงการเพาะปลูกกัญชา สาร PGR ที่ใช้กันมากที่สุดคือ:

  • Paclobutrazol
  • Daminozide
  • Chlormequat Chloride

Paclobutrazol

ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการยืดตัวของเซลล์พืช ในทางกัญชาหมายถึง เซลล์จะอัดแน่นและหนาแน่นกว่าบนช่อดอก นอกจากนี้ยังขัดขวางการพัฒนาเทอร์พีนที่สำคัญในกระบวนการของพืช และลดความสามารถของพืชในการผลิต THC เมื่อช่อดอกกัญชาที่มี Paclobutrazol ถูกสูบ มันจะแตกตัวเป็น nitrosamines ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งส่วนใหญ่ที่พบในบุหรี่ มีการศึกษาเกี่ยวกับ Paclobutazol กล่าวไว้ว่า Paclobutazol สามารถส่งผลเสียต่อการสืบพันธุ์ และความเสียหายต่อตับ

Daminozide

หรือที่เรียกกันว่า Alar ถูกใช้โดยผู้ปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตของช่อดอกกัญชา โดยชะลอกการเจริญเติบโตของใบและลำต้น แต่คล้ายกับ Paclobutrazol มันลดการผลิต terpenes รวมถึง cannabinoids เช่น CBD, CBN และ THC และหมายความว่าจะมีไตรโคมน้อยลง

E.P.A กล่าวว่า Daminozide เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ใน U.S.A เมื่อปี 1999 มันถูกห้ามใช้ในพืชสำหรับการบริโภค เนื่องจากนักวิจัยพบว่า สามารถจัดเป็นสารก่อมะเร็งได้ในปริมาณที่สูง PGR สังเคราะห์จำนวนมากถูกห้ามไม่ให้ใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริโภค ดังนั้น จึงไม่ควรสูบหรือกินเข้าไป

Chlormequat Chloride

ในขั้นตอนการปลูก การชะลอการเจริญเติบโตบางส่วนของพืชในบางจุดจะช่วยกระตุ้นการออกดอก การเพิ่มสารชนิดนี้เข้าไปในพืชกัญชาจะทำให้ขนาดสั้นลงและสม่ำเสมอมากขึ้น แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานว่า PGR ชนิดนี้เป็นสารก่อมะเร็ง แต่การทดสอบยังคงดำเนินการอยู่เรื่อย ๆ มีรายงานเกี่ยวกับความเสียหายต่ออวัยวะอย่างการระคายเคืองผิวหนังและดวงตาอันเป็นผลมาจากการบริโภคในปริมาณที่มาก

credit: ismokemag.co.uk

กัญชาที่ใช้ PGR จะสังเกตุและรู้ได้อย่างไร?

กัญชา PGR อาจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้ ทั้งในระยะยาวและระยะสั้น ควรหลีกเลี่ยง มีวิธีการสังเกตุที่มองได้ด้วยตาและจากการลองสูบ โดยสังเกตุได้จากตัวอย่างเหล่านี้ เช่น

  • ตัวช่อดอกมีลักษณะ ตูม หนา ทึบ และแข็ง
  • ขนสีน้ำตาลหรือสีแดง (เกสรตัวเมีย) – นี่เป็นลักษณะตามธรรมชาติของกัญชาแต่ด้วย PGR มันจะมีปริมาณที่มากเกินไปซึ่งแตกต่างจากไตรโคมอย่างเห็นได้ชัด
  • มีค่า THC ที่ต่ำ
  • มีรสเคมีที่แรง
  • เมื่อบดจะปล่อยกลิ่นออกมาน้อยหรือไม่มีเลย
  • การเมาที่รวดเร็วเนื่องจากสารเคมี อาจทำให้เกิดอาการเซื่องซึม รู้สึกไม่มีแรงและปวดหัว

ซึ่งปัจจุบันใน ประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลปุ๋ยกัญชา ในอุตสาหกรรมกัญชา เพื่อป้องกันการเพิ่มส่วนผสมที่ไม่อยู่ในรายการได้รับอนุญาต ส่วนผสมที่ผิดกฎหมาย และส่วนผสมที่่เป็นพิษ ดังนั้นโปรดคำนึงว่ากัญชาที่คุณบริโภคอาจเติบโตโดยใช้ผลิตภัณฑ์ส่วนผสมที่ยังไม่ผ่านการทดสอบและไม่ได้รับการควบคุมเหล่านี้

เลือกซื้อกัญชาจากผู้ปลูกหรือผู้ขายที่ไว้ใจได้ ถ้าอยากให้ปลอดภัยที่สุด ออแกนิกที่สุด ผู้ใช้สามารถกลายมาเป็นผู้ปลูกเองได้ เพียงศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกกัญชา วิธีที่จะทำให้แน่ใจว่า กัญชานั้นไร้ซึ่งสารเคมีแน่นอน เพราะเราปลูกเอง

วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับการเพาะปลูกมีความซับซ้อนและ ทุกคนมีความคิดแตกต่างกันเกี่ยวกับประสิทธิภาพและผลกระทบของ PGR ต่อผลผลิต ในการเพาะปลูกกัญชา ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ PGR ในการเพาะปลูกกัญชา จนกว่าจะถึงตอนนั้น yumganja ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้กัญชาที่มีสารประกอบเหล่านี้ หรือปลูกโดยใช้สารเหล่านี้